หรือสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ในการลงทุน ต่อยอดชีวิตในมิติอื่นๆ ตามที่คาดหวัง การหาความสุขให้ตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด แต่การใช้จ่ายโดยปราศจากการวางแผน และเน้นการบริโภคตามกระแสสังคม อาจนำไปสู่หายนะทางการเงินส่วนบุคคล และหนี้ครัวเรือนที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตามผลสำรวจเป็นเพียงภาพที่สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แต่การบริหารเงินส่วนบุคคลที่ดีจะเริ่มต้นได้จากการตระหนักถึงปัญหาของแต่ละบุคคล ประเมินกำลังของตัวเองก่อนซื้อหรือใช้เงินเพื่อเป็นตัวกรองว่าสุดท้ายแล้วของท่ี่กำลังจะซื้อคือ "ของมันต้องมี" หรือแค่ "ของที่อยากมี"
เข้าใจความต่างคน 4 เจเนอเรชั่น เสริมการทำงานสุดแฮปปี้ -
Gen Z (พ. 2540-2552)
Generation-Z คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่าง พ.
Generation Alpha (พ. 2553 ขึ้นไป)
Gen Alpha คือ คำนิยามล่าสุดของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันที่เกิดตั้งแต่พ.
ส่องพฤติกรรม Gen นี้ใช้สื่ออะไรมากที่สุด - WISDOM Knowledge
- รับ ทํา ของขวัญ วาเลนไทน์
- Park24 คอน โด ใกล้
- ตลับพระสามเหลี่ยม (ทรงนางพญา) - MLWgold
- ปวดต้นคอ อย่าวางใจ เพราะอาจอันตรายกว่าที่คิด | HD สุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่
- เจาะลึกพฤติกรรม Generation C “ไลฟ์สไตล์ – ความคิด” สำคัญกว่า “อายุ”
- Bana hill อากาศ ภาษาอังกฤษ
- เข้าใจความต่างคน 4 เจเนอเรชั่น เสริมการทำงานสุดแฮปปี้ -
- พระ ยาก อน อากาศ เชียงใหม่
- คอน โด บ้าน สวน พง ษ์ เพชร
- Gen ต่างๆ อายุ
1%
ดูหนัง ฟังเพลง และรับสื่อบันเทิงบนออนไลน์ เฉลี่ย 69. 2%
ค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ เฉลี่ย 54. 6%
อ่านบทความออนไลน์และรับข่าวสาร เฉลี่ย 50. 5%
เล่นเกมออนไลน์ เฉลี่ย 47. 0%
ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ เฉลี่ย 38.
สำหรับกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ. ศ.
8%, Line 96. 7%, Facebook 91% เป็นโปรแกรมที่วัยนี้ใช้มากที่สุด มักมีพฤติกรรมการใช้สื่อเพื่อการสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน ดูหนัง ติดตามเรื่องราวต่างๆ ค้นหาข้อมูล เพิ่มเติมในเรื่องของการเรียน
กลุ่มที่ 2 Gen Y อายุ 20-39 ปี กลุ่มนี้มีการอัพเดทเรื่องราวแบบรวดเร็ว ทั้งกดไลค์ กดแชร์ หาข้อมูลความรู้ผ่านทาง Google ทำงานผ่านการใช้ Email เกิดมาในช่วงของการใช้คอมพิวเตอร์
โปรมแกรมยอดฮิตของ กลุ่มที่ 2 ได้แก่ YouTube 99. 6%, Line 99. 4%, Facebook 98. 5% กลุ่มนี้มีการใช้โซเชียลค่อนข้างสูง ทั้งการสื่อสารพูดคุย รวมไปถึงการ SHOPPING ผ่านสื่อออนไลน์ตัดสินใจซื้อจากสื่อออนไลน์เป็นส่วนมาก และชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์เกือบทั้งหมด
กลุ่มที่ 3 Gen X อายุ 40-59 ปี กลุ่มวัยกลางคนที่เริ่มรู้จักการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน เปิดใจให้กับสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ใช้สื่อในการติดต่อค้นหาเพื่อนเก่าๆ และพยายามทำความเข้าใจสื่อต่างๆให้มากขึ้น
โปรมแกรมยอดฮิตของ กลุ่มที่ 3 ได้แก่ Line 99. 5%, YouTube 97. 5%, Facebook 96. 8% กลุ่มนี้จะใช้โปรแกรมในการแชทหรือพูดคุยผ่านสื่อ ติดตามข่าวสารต่างๆ เน้นใช้ในการค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และมีแนวโน้มใช้สื่อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มที่ 4 Baby boomer อายุ 60-79 ปี กลุ่มนี้อยู่ในช่วงวัยที่เทคโนโลยี ยังเข้ามาไม่มากนัก มีการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มักเชื่อข่าวสารจากทางโทรทัศน์มากกว่าสื่อออนไลน์
โปรมแกรมยอดฮิตของ กลุ่มที่ 4 ได้แก่ Line 97.
เจาะลึกพฤติกรรม Generation C “ไลฟ์สไตล์ – ความคิด” สำคัญกว่า “อายุ”
การสร้างคอนเท้นท์เฉพาะกลุ่ม – ข้อมูลที่กว้างและไม่เจาะจงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการเข้าถึงคนกลุ่มนี้ ดังนั้นกุญแจสำคัญเพื่อให้การให้บริการประสบความสำเร็จ แบรนด์สินค้า-บริการควรคำนึงถึงประสบการณ์และผลลัพธ์ที่อยากให้ลูกค้าได้รับเป็นจุดเริ่มต้น
2. ถ่ายทอดเรื่องราวอย่างเหมาะสม – หน้าเพจและข้อมูลที่กว้างไม่สามารถดึงดูดความสนใจของคนกลุ่ม Generation C ได้อีกต่อไป แต่เป็นการสร้างคอนเท้นท์ขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยไม่ต้องคำนึงถึงช่องทางการสื่อสาร ซึ่งรวมไปถึงการโฆษณาด้วย
จากผลสำรวจ พบว่า 39% ของคนใน Generation C ไม่ต่อต้านโฆษณาบนโลกออนไลน์ หากโฆษณานั้นสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้
3. ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็น – โซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่ม Generation C เพราะคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เชื่อมต่อกับทุกสิ่งบนโลกผ่านหน้าต่างโซเชียลมีเดีย และเลือกใช้ช่องทางนี้เพื่อสื่อสารถึงความเป็นตัวเอง
ดังนั้น แบรนด์สินค้า-บริการ ควรสนับสนุนให้เกิดการแชร์บนโลกออนไลน์ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเพื่อเป็นเวทีให้พวกเขาใช้สื่อความเป็นตัวเองให้ทุกคนบนโลกได้เห็น เพราะคนในกลุ่ม Generation C มักมองว่าตนเองเป็นผู้นำทางความคิดมากกว่าคนกลุ่มอื่นถึง 1.
นำจุดดี-จุดด้อยมาเป็นจุดแข็ง การยอมรับและเข้าใจในความต่างของอีกบุคคลนั้นเป็นทฤษฏีที่ง่ายแสนง่ายในหน้ากระดาษ แต่ทำได้ยากยิ่งในชีวิตจริง เพราะเมื่อถึงเวลาลงสนาม และต้องเจอกับสถานการณ์จริงเข้า หลายๆ คนมักเกิดความสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำตัวเช่นนี้ หรือคิดเห็นต่างเช่นนั้นอยู่ตลอดเวลา การทำความเข้าใจและยอมรับความต่างให้ได้จึงยากยิ่งกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขาเสียอีก เอาเป็นว่า ถ้าเกิดโมเมนต์นี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้นำจุดดีของเขามาปรับใช้ รวมถึงเรียนรู้จุดด้อยของเขา เพื่อสร้างจุดแข็งให้ตัวเองไปในตัว Featured image © 3.
8 เท่า ทั้งยังชอบคิดว่า "มีหลายคนเข้ามาขอคำแนะนำจากเขาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า"
4. สื่อสารด้วยแบรนด์ – สำหรับคนกลุ่มนี้ การมีสินค้าและบริการที่ดีอาจจะไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญเสมอไป เพราะการทำให้คนกลุ่ม Generation C มีความสนใจได้นั้น ควรสื่อสารผ่านแบรนด์ไปพร้อมๆกัน ดังนั้น จุดยืนของแบรนด์จึงควรมีจุดมุ่งหมายเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญต่อคนกลุ่มนี้ อาทิ ประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคม
5.
ยอมรับความแตกต่าง คำว่า Gen หรือ Generation (เจเนอเรชั่น) แปลว่า ยุคสมัย การแบ่งกลุ่มคนตาม Gen หรือช่วงอายุจะสามารถแบ่งได้เป็น 4 เจน ดังนี้ Generation B (Gen-B) ยุค Baby boomer หรือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ. ศ. 2489-2507 กลุ่มวัยผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่เป็นพวกอนุรักษ์นิยม ค่อนข้างเคร่งเครียดเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี มีความอดทนสูง Generation X (Gen-X) หรือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ. 2508-2522 กลุ่มวัยทำงาน ส่วนใหญ่ชอบอะไรง่ายๆ สบายๆ ทำงานตามหน้าที่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ก็ปรับตัวเก่ง Generation Y (Gen-Y) ยุค Millennials หรือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ. 2523-2540 กลุ่มวัยแรกเริ่มของวัยทำงาน โตมาพร้อมเทคโนโลยี ต้องการการยอมรับสูง แต่จะไม่ทนถ้าสิ่งนั้นไม่ตอบโจทย์ชีวิต Generation Z (Gen-Z) หรือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ. 2540 เป็นต้นไป กลุ่มเด็กยุคใหม่ เกิดมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ยอมรับความแตกต่างง่าย ต้องการเข้าใจทุกสิ่งรอบตัว เมื่อคนแต่ละ Gen มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งในแง่นิสัยใจคอและความคิด ขั้นแรกของการทำงานร่วมกับคนต่าง Gen ให้มีความสุข คือ การเข้าใจในความแตกต่าง และยอมรับตัวตนของคนแต่ละ Gen ให้ได้ อย่าพยายามยัดเยียดรูปแบบความคิดของตนให้อีกฝ่าย การที่บุคคลหนึ่งมีทัศนคติ ความเชื่อ หรือรูปแบบการใช้ชีวิตแตกต่างจากเรา มิได้แปลว่าเขาเป็นคนไม่ดีเสมอไป Featured image © 2.